ถ้าให้จัดอับดับกล้อง FujiFilm X-T100 ตัวนี้ บอกเลยว่าเป็นกล้องที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง FujiFilm X-A5 กับ FujiFilm X-T20 คือเรื่องของสเปคและบอดี้ดีกว่า X-A5 แต่ก็ยังไม่ดีเท่ากับ X-T20 ฉะนั้นกล้อง X-T100 จึงเป็นกล้องที่เหมาะกับผู้ใช้มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มหัดถ่าย และพร้อมรองรับการพัฒนาของตัวเองในอนาคต
กล้องถูกดีไซน์แนวใหม่คือ ตรงสีเงิน-ดำถูกเอาออกไปกลายเป็น 3 สี เช่น Black (ดำทั้งบอดี้), Champagne Gold (สีทองคล้ายแชมเปญตัดกับหนังดำ) และสี Dark Silver สีเทา-ดำ สุดคลาสิค ส่วนรูปทรงของกล้องจะเป็นแบบ SLR คือมีกะโหลกอยู่ตรงกลางด้านบน ทาง Fuji อธิบายว่าส่วนนี้เป็นอลูมิเนียมที่ทำสีแบบ Anodized Coating มีน้ำหนักรวมแบตและการ์ดแล้วอยู่ที่ 448 กรัม ขนาดของกล้องเทียบเท่ากับ iPhone 7 เท่านั้นเอง ทำให้สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้แบบไม่ลำบาก
ช่องมองภาพของ FujiFilm X-T100 ให้ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซลทำให้ตอนใช้งานบางครั้งอาจนึกว่าจับ X-T20 อยู่ก็ได้ ส่วนหน้าจอที่อยู่ด้านในมีขนาดกลางๆสามารถมองได้แบบชัดเจน แต่ก็ไม่ถึงขั้นสบายตามากนัก
ใน FujiFilm X-T100 สามารถต่อไมโครโฟนได้เหมือนกับ X-A5 ซึ่งกล้องที่มีช่องไมโครโฟนในบ้านเรามีให้เลือกไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ถึงจะมีช่องต่อไมโครโฟนมาให้ คุณก็ยังต้องหา Adapter มาแปลงอยู่ดี เพราะขนาดที่ให้มาเพียงแค่ 2.5 mm ไม่ใช่แบบ 3.5 mm เท่ากับขนาดมาตรฐานทั่วไป
หากใครที่กลัวว่าจะจับกล้องได้ไม่ถนัดมือ ทาง Fuji ก็แถมตัว Grip มาเสริมให้ด้วย โดยการใช้วิธีขันติดด้วยเหรียญ แนะนำว่าควรติดจะดีกว่า จะได้ไม่ลื่นหล่นง่าย แต่มีข้อควรระวังคืออย่าพยายามถอดเข้า-ออกเพราะมีแนวโน้มว่าน็อตที่ให้มาด้วยอาจจะหายได้
อีกหนึ่งข้อที่ FujiFilm X-T100 ที่ทำออกมาได้ดีก็คือเรื่องของจอพับแบบใหม่ที่ทำออกมาได้ดีสุดๆ คือสามารถพลิกขึ้น-ลง และพลิกออกด้านข้างเพื่อเซลฟี่ หรือจะถ่ายวีดีโอแบบ Vlog ก็ทำได้เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าจะถ่ายภาพแนวไหนจอก็พับถ่ายภาพได้ตามที่ต้องการ
สรุปได้ว่ากล้องรุ่นนี้น่าจะเหมาะกับคนสองลักษณะ อย่างแรกคือคนที่ยังไม่เคยมีกล้อง Mirrorless มาก่อนแล้วอยากทดลองใช้กล้องตัวแรกที่มีระบบสั่งการถ่ายได้ง่ายๆ ส่วนอีกแบบคือคนที่มีกล้องของตัวเองอยู่แล้ว แต่อยากได้กล้องอีกสักตัวไว้ถ่ายสบายชิลๆ เวลาไปท่องเที่ยวพกพาสะดวก ไม่ต้องถือกล้องใหญ่ๆให้เกะกะ ดังนั้นกล้อง FujiFilm X-T100 จึงเป็นกล้องสายท่องเที่ยวอย่างแท้จริงค่ะ
